ขึ้นชื่อว่าคำสาปน่าจะต้องมาจากฝั่งของสิ่งชั่วร้ายอย่างพวกพ่อมด แม่มด เพราถ้าหากเป็นนางฟ้า หรือเทวดาก็น่าจะให้พรมากกว่า มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าเวลาที่เห็นอะไรพวกนี้ ก็ทำให้เราสามารถแยกออกทันทีว่าฝั่งไหนที่เป็นฝ่ายดี แต่ถ้าใครได้มาเล่น Dark Witcher เกมที่นำแม่มดมาเป็นตัวเดินเกมแล้วจะรู้ว่าบางครั้งแม่มดก็ไม่จำเป็นต้องสาปใคร แค่มาโลดแล่นให้เราได้สนุกแค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว ซึ่งวิธีการเล่นของมันก็เข้าใจได้ง่ายมาก ๆ ถ้าให้เด็กน้อยเป็นคนเล่นก็น่าจะเข้าถึงได้ไม่ยากเลย
ระบบ Gameplay
รูปแบบการเล่นในเกม Dark Witcher ไม่มีอะไรมาก เพราะเราสามารถควบคุมได้ทั้งลูกศร หรือการใช้ Mouse โดยเราจะต้องพาแม่มดขี่ไม้กวาดไปเก็บจุดสีเขียวเล็ก ๆ บนท้องฟ้า เพื่อสะสมคะแนนให้ได้มากที่สุด ถึงแม้บางครั้งเราอาจจะกดไม่ทันจนทำให้แม่มดตกไปอยู่ที่ขอบด้านล่างสุดก็ไม่เป็นปัญหา เพราะว่าแม่มดก็จะลอยขึ้นมาใหม่เองได้ แต่เราไม่สามารถพาลง หรือเคลื่อนหน้าหลังได้นะ ขออย่างเดียวว่าอย่าพาไปชนศัตรูอย่างดวงวิญญาณ, ฟักทอง หรือซาตานก็พอ เพราะไม่อย่างนั้นจะทำให้แม่มดกลายเป็นนางฟ้าทันที แต่นางฟ้าในที่แห่งนี้ไม่ใช่จะให้กลายร่างหรอกนะ แต่หมายถึงการตายในรอบนั้นต่างหาก
ดังนั้น การจัดการศัตรูในเกม Dark Witcher ที่ดีที่สุดจึงเป็นการยิง โดยการใช้ Mouse ไปกดที่ Icon ด้านขวามือ แล้วก็ต้องบังคับให้ดีด้วย เพราะในการกด Mouse ก็จะทำให้แม่มดลอยขึ้นด้านบนเหมือนกัน ซึ่งการกะจังหวะจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึง และการที่จะผ่านไปยังด่านใหม่ได้ ก็ให้ดูที่หลอดแก้วด้านล่างซ้าย ที่มีลักษณะเหมือนกับการบรรจุน้ำยา ถ้าเมื่อไหร่ที่หลอดแก้วเต็มก็หมายความว่าสามารถเปลี่ยนระดับขึ้นได้แล้ว แต่อย่ามัวไปโฟกัสแค่ตรงนั้นล่ะ ไม่งั้นจะหาว่าไม่บอก
และเมื่อจบเกม Dark Witcher เราสามารถดูวีดีโอเพื่อเป็นการเซฟตัวเองไว้ที่จุดเดิมได้ แต่ถ้าใครชอบความท้าทายอยากเริ่มใหม่ก็ไม่ว่ากัน โดยใน 1 รอบการเล่นเราจะมีหัวใจ 3 ดวง เมื่อชนเข้ากับศัตรูก็ยังเล่นได้เท่าที่หัวใจยังเหลือ ส่วนคะแนนจะแบ่งไปตามลำดับ เช่น จุดเขียว 1 คะแนน, วิญญาณ 10 คะแนน, ฟักทอง 20 คะแนน และซาตาน 50 คะแนน ซึ่งระหว่างทางหากเก็บตัวอักษร R ได้ ตัวปืนที่เป็นกระสุนธรรมดาจะกลายเป็นลูกศรสีแดงชั่วระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อดีเพราะมันสามารถยิงทีเดียวแล้วศัตรูตายเลย
#Dark Witcher #เกมในSteam #เกมมือถือ
