เกม Pokemon Legends- Arceus ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เกม Pokemon Legends: Arceus ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

กลับมาอีกครั้งสำหรับเกมภาคต่อยอดฮิตตลอดกาลอย่างเกม Pokémon ซึ่งคราวนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าสร้างเสียงฮือฮา ได้เป็นอย่างมาก เพราะภาคแรกที่เราได้เห็นก็คือประสบการณ์สำรวจโลกกว้างที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ที่มาพร้อมกับกราฟิก 3D ที่ดูจับต้องได้ และชื่อภาคอันแสนจะมีเสน่ห์อย่าง “Pokémon Legends: Arceus

อะไรคือจุดเปลี่ยนของ Pokémon ภาคนี้ จนทำให้มันกลายเป็นอีกหนึ่งเกมบน Switch ที่ควรค่าแก่การหามาลอง ขอเชิญมาร่วมหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันได้ในบทความรีวิวของเรา

ระบบการเล่น

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าตัวเกมไม่ได้เป็น Open-World เต็ม 100% ดังนั้นระบบ Gameplay จึงถูกออกแบบมาให้เข้ากับการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซนใหญ่ ๆ ซึ่งหวยก็มาตกอยู่ที่ระบบการ “รับภารกิจ” ในลักษณะเดียวกันกับเกมตระกูล Monster Hunter

ระบบภารกิจของภาคนี้เข้าใจได้ง่ายมาก ผู้เล่นจะต้องมาตั้งหลักที่หมู่บ้านก่อน เพื่อเลือกภารกิจที่ตนต้องการ จากนั้นก็มุ่งออกไปยังพื้นที่เป้าหมายเพื่อทำให้ลุล่วง ซึ่งภารกิจส่วนใหญ่ก็จะหนีไม่พ้นการต้องไปต่อสู้กับโปเกมอนตัวโหด หรือจับพวกมันตามเงื่อนไข แต่ขณะเดียวกันก็จะมีภารกิจย่อย ๆ จาก NPC คนอื่นที่มาไหว้วานเรื่องเล็กน้อยกับเราในระหว่างทางอยู่ด้วย เช่นเก็บรวบรวมวัตถุดิบต่าง ๆ ให้ครบตามจำนวน เป็นต้น

เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว ผู้เล่นก็สามารถกลับมารายงานกับ Professor เพื่อสรุปผลการสำรวจ ว่าเราจับหรือวิจัยโปเกมอนอะไรใหม่ ๆ มาได้บ้าง และรับแต้ม Research Point กลับมาเป็นรางวัลตอบแทนเพื่ออัปเกรดระดับของเทรนเนอร์ต่อไป

และด้วยรูปแบบการเล่นเช่นนี้ ก็ทำให้ตัวเกมไม่มีระบบยิมเหมือนกับภาคก่อน ๆ อีกต่อไป หากแต่การต่อสู้ครั้งใหญ่ของเราจะเกิดขึ้นไปตามเนื้อเรื่องเอง ดังนั้นเนื้อเรื่องหลักจึงมีส่วนสำคัญมาก และเพื่อให้มันดำเนินต่อไปได้ เราก็จะต้องพัฒนาตัวเองให้ถึงเงื่อนไข โดยการเพิ่มระดับเทรนเนอร์จากการสำรวจโปเกมอนใหม่ ๆ และอัพเลเวล/วิวัฒนาการโปเกมอนของเราให้แข็งแกร่งพอที่จะเอาชีวิตรอดในโลกภายนอกได้

ในส่วนของระบบการต่อสู้, Pokémon Legends: Arceus ยังคงมาในรูปแบบของ Turn-Based อันคลาสสิค ผลัดกันโจมตีเหมือนเดิม ที่ต่างไปจากเดิมก็คือคราวนี้จะมีระบบคิวมาให้ดูว่าโปเกมอนตัวไหนจะออกท่าเป็นรายต่อไป ทำให้สามารถวางแผนล่วงหน้าได้

นอกจากนี้ตัวผู้เล่นก็ไม่ต้องยืนเฉย ๆ เพราะเราจะเดินไปตรงมุมไหนก็ได้ในฉากต่อสู้ กลายเป็นว่าผู้เล่นสามารถเลือกมุมกล้องต่อสู้ได้เองแบบเท่ ๆ และยืนออกคำสั่งให้โปเกมอนออกท่าโจมตี ด้วยรูปแบบที่มีให้เลือกทั้ง Strong เน้นพลังทำลาย และแบบ Agile ที่เน้นความคล่องตัว

ภาพรวมที่ออกมาจึงเป็นระบบการต่อสู้ที่ไม่ทิ้งแบบแผนเดิมของเกมตระกูลโปเกมอนไปแต่อย่างใด ยังคงมีระบบแพ้ชนะธาตุที่ทำให้เราต้องจัดวางกลยุทธ์และคำนวณความเสียหายของแต่ละท่าให้ดี ขณะเดียวกันก็มีความสดใหม่จากการบังคับตัวเทรนเนอร์ได้อย่างอิสระอยู่ด้วย

ไม่เพียงแต่โปเกมอนเท่านั้นที่ต้องสู้ เพราะเกิดเป็นเทรนเนอร์ในภาคนี้ก็ต้องสู้กับเขาด้วยเหมือนกัน นอกเหนือจากที่ต้องคอยหลบบรรดา Alpha Pokémon ตัวโฉดตามฉากแล้ว ก็ยังมีฉากต่อสู้แบบบังคับกับเหล่า “Noble Pokémon” ซึ่งเป็นโปเกมอนระดับบอสที่เทรนเนอร์จะต้องปาไอเท็มใส่มันรัว ๆ ก่อนจนกว่าเกจพลังจะหมด และหยุดความคลุ้มคลั่งของพวกมันลง

สรุปโดยรวม

Pokémon Legends: Arceus เป็นผลงานจากการสั่งสมประสบการณ์กว่า 25 ปีของทีมงาน Game Freak จนตัวเกมออกมาเข้าถึงมือใหม่ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังฉีกขนบเดิมและนำพาแฟรนไชส์ไปสู่รูปแบบ Gameplay ใหม่ ๆ ที่ก็ยังคงไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของระบบการต่อสู้แบบ Turn-Based ไปแต่อย่างใด

แม้ว่าจะมีความขลุกขลักกับงานกราฟิกอยู่บ้าง แต่ด้วยระบบการเล่นที่ส่งเสริมกันอย่างดี จนชวนให้อยากออกไปวิ่งเล่นและสำรวจแบบต่อเนื่องไม่มีพัก ก็ทำให้นี่คือโปเกมอนภาคที่ควรค่าแก่การได้ลอง จับต้องได้ และมีชีวิตชีวามากเสียยิ่งกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา

โหลดเกมออนไลน์ เกมPCฟรี  เกมมือถือ ซื้อเกมSteam เกมในSteam